Salvator Mundi ภาพวาดราคาสูงที่สุดของ “ดา วินชี”

Salvator Mundi ภาพวาดราคาสูงที่สุดของ “ดา วินชี”

คงเคยได้ยินคุ้นๆ หูกันมาบ้างสำหรับ “ดา วินชี” หรือ เลโอดาร์โน ดา วินชี เป็นชาวอิตาลี  ซึ่งเป็นอัจฉริยบุคคลที่มีความสามารถหลากหลายด้าน คือเป็นทั้งสถาปนิกแบบเรอเนซองส์  นักดนตรี  นักกายวิภาค  นักประดิษฐ์  วิศวกร ประติมากร นักเรขาคณิต นักวาดภาพ. เลโอนาร์โด ดา วินชี มีผลงานศิลปะที่มีชื่อเสียงหลายชิ้นที่ผู้คนรู้จักกันดี เช่น อาหารค่ำมื้อสุดท้าย (The Last Supper) และ โมนา ลิซ่า (Mona Lisa) ซึ่งวันนี้เราจะพาไปรู้จักกับภาพ Salvator Mundi ผลงานของ ดา วินชี ที่มีราคาสูงที่สุดของเขากัน

Salvator Mundi

                เมื่อเร็วๆ นี้มีข่าวคราวเกี่ยวกับการไขปริศนาในภาพวาดชิ้นเอกในประวัติศาสตร์ศิลปะตะวันตก ภาพวาดที่ว่านี้มีชื่อว่า Salvator Mundi (1500) (เป็นภาษาละตินแปลว่า Savior of the World หรือ พระผู้ช่วยให้รอดของโลก ซึ่งหมายถึง พระเยซู นั่นเอง) ผลงานของศิลปินเอกแห่งยุคเรอเนสซองส์ เลโอนาร์โด ดา วินชี (Leonardo da Vinci)

ภาพวาดพระเยซูคริสต์สีน้ำมันบนแผ่นไม้วอลนัตภาพนี้ ถูกประมูลขายไปโดยสถาบันประมูลคริสตี้ส์ นิวยอร์ก ในราคา 450.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 13,608 ล้านบาท มันถูกซื้อไปโดย มุฮัมมัด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบีย ทำให้กลายเป็นภาพวาดราคาแพงที่สุดในโลกเท่าที่เคยมีการขายมา ภาพวาดนี้เป็นหนึ่งในภาพวาดจำนวนน้อยกว่า 20 ชิ้น ที่คาดว่าเป็นผลงานของดา วินชี ถึงแม้จะมีปริศนาและข้อโต้แย้งบางอย่างเกี่ยวกับหลักฐานและที่มาที่ไปของภาพก็ตามที

ยังมีปริศนาอีกอย่างเกี่ยวกับภาพวาดนี้ ตรงที่พระเยซูในภาพวาด นอกจากจะชูนิ้วเป็นสัญลักษณ์ไม้กางเขนที่ปรากฏบ่อยครั้งในภาพวาดของพระเยซูคริสต์ทั่วๆ ไป แต่รายละเอียดอันโดดเด่นอีกประการในภาพนี้ก็คือ มืออีกข้างของพระองค์ยังถือลูกแก้วซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของทรงกลมฟ้าแห่งส  รวงสวรรค์ (Celestial sphere) ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แทนบทบาทของพระองค์ในฐานะพระผู้ช่วยให้รอดของโลกนี้นั่นเอง

ซึ่งเจ้าลูกแก้วที่ว่านี่แหละ ที่เป็นต้นเหตุของปริศนาที่ผู้เชี่ยวชาญและนักประวัติศาสตร์ศิลปะหลายคนฉงนสนเท่ห์ เพราะถ้าว่ากันตามหลักความเป็นจริงแล้ว ลูกแก้วกลมแบบนี้จะมีลักษณะเป็นเสมือนเลนส์นูน ซึ่งน่าจะฉายภาพเสื้อคลุมด้านหลังลูกแก้วให้เป็นภาพขยายหัวกลับและกลับซ้ายเป็นขวา แต่ภาพของเสื้อคลุมที่ปรากฏหลังลูกแก้วที่ปรากฏในภาพวาดนี้กลับไม่ได้เป็นเช่นนั้น แต่กลับเป็นภาพเสื้อคลุมในมุมมองตามปกติ แทบจะไม่บิดเบี้ยวเลยด้วยซ้ำไป ทั้งๆ ที่ดา วินชีเป็นศิลปินที่ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับปรากฏการณ์หักเหของแสงเป็นอย่างดี หลักฐานก็คือในสมุดบันทึกของเขานั้นเต็มไปด้วยภาพสเกตซ์ของหลักการหักเหของแสงในวัตถุต่างๆ มากมาย

Salvator Mundi

เมื่อไม่นานมานี้ นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย วิทยาเขตเออร์ไวน์ มาร์โค เหลียง (Marco Liang) และทีมงาน ร่วมกันไขปริศนานี้ด้วยการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์กราฟิกในการจำลองภาพวาด Salvator Mundi ขึ้นมาใหม่ในรูปแบบ 3 มิติ และศึกษาว่าแสงจะหักเหผ่านทรงกลมของลูกแก้วในลักษณะต่างๆ ได้อย่างไรบ้าง?

หลังจากเปรียบเทียบภาพจำลอง 3 มิติกับภาพต้นฉบับ พวกเขาได้ข้อสรุปว่า ลูกแก้วในภาพวาดนี้ไม่ใช่ลูกแก้วตันๆ ที่ถูกหลอมออกมาแบบเดียวกับลูกแก้วพยากรณ์ของหมอดูที่เราเห็นกันตามปกติทั่วไป หากแต่น่าจะเป็นลูกแก้วที่กลวงข้างในต่างหาก นั่นแสดงให้เห็นว่า ดา วินชี วาดภาพนี้ในแบบเหมือนจริงตามหลักวิทยาศาสตร์นั่นเอง

                ร่องรอยที่แสดงให้เห็นการเปลี่ยนแปลงแก้ไขภาพวาดในระหว่างการเขียนภาพ (Pentimenti) ที่ปรากฏอยู่บนมือที่อยู่เบื้องหลังลูกแก้วในภาพวาดนี้ ก็เป็นอีกหลักฐานหนึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่แสดงว่าผลงานชิ้นเป็นของเขาจริงๆ ซึ่งถ้าใครรู้ประวัติและศึกษาผลงานของเขามาก็จะรู้ดีว่าดา วินชี เป็นศิลปินที่มักจะเปลี่ยนแปลงแก้ไขผลงานของเขาบ่อยครั้งจนเป็นที่เลื่องลือ โดยโปรแกรมคอมพิวเตอร์กราฟิกนี้ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อจำลองฟิสิกส์ของการไหลของแสง เป้าหมายโปรแกรมนี้ก็คือการจำลองลักษณะวัตถุกึ่งโปร่งใสที่ทำจากแก้ว หรือลักษณะของน้ำได้ดีขึ้น

Salvator Mundi

พวกเขาเริ่มต้นจากการสร้างฉากในภาพวาดขึ้นมาใหม่ในรูป 3 มิติ โดยผสมผสานพื้นผิวและโครงสร้างของวัตถุทั้งหมดที่กระทบแสง โดยรวมทั้งมุมมองในภาพและแหล่งกำเนิดแสง จากนั้นอัลกอริทึมของโปรแกรมก็จะทำการแกะรอยลักษณะของแสงที่ส่องไปยังฉากในภาพ ว่าทำงานอย่างไร ต่อมาพวกเขาจำลองภาพวาดในแบบเสมือนจริงอย่างคร่าวๆ ในรูปทรงเรขาคณิต เพื่อคำนวณรายละเอียดเกี่ยวกับลูกแก้วและมือที่ถือมัน ด้วยการเปรียบเทียบระหว่างลูกแก้วกับมือ พวกเขาประเมินว่าลูกแก้วน่าจะมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 13.6 ซม. และมีระยะทางจากร่างกายของผู้ถือ 25 ซม. พวกเขายังปรับรูปจำลองเรขาคณิตของภาพให้มือสัมผัสกับลูกแก้วอย่างนุ่มนวล โดยใช้โปรแกรมซอฟต์แวร์ Maya ที่ใช้ทำแบบจำลอง 3 มิติ และอนิเมชั่น

จากฉากจำลองแบบเสมือนจริงนี้ พวกเขาทำการทดสอบว่าลูกแก้วในมือนั้นเป็นลูกแก้วแบบไหนกันแน่ ผลลัพธ์ที่ได้นั้นน่าสนใจว่า หนทางเดียวที่ทีมนักวิทยาศาสตร์จำลองภาพวาดให้ออกมาเหมือนกับต้นฉบับมากที่สุดคือการใช้ลูกแก้วกลวงเท่านั้น เพราะลูกแก้วกลวงจะฉายภาพด้านหลังออกมาอย่างบิดเบือนในรูปแบบเฉพาะตัว ยกตัวอย่างเช่น เส้นตรงที่ถูกฉายผ่านศูนย์กลางของลูกแก้วจะไม่บิดเบี้ยว ในขณะที่เส้นตรงที่ไม่ผ่านศูนย์กลางของลูกแก้วจะบิดเบี้ยวในลักษณะที่ไม่ต่อเนื่องกับขอบลูกแก้ว ซึ่งรายละเอียดของผ้าคลุมเบื้องหลังลูกแก้วในภาพวาดนี้ก็ปรากฏออกมาในลักษณะเดียวกัน ทีมนักวิทยาศาสตร์ยังทำการทดลองจำลองความหนาของลูกแก้วในภาพวาดในแบบที่แตกต่างกันไป ท้ายที่สุดก็คาดคะเนว่าความหนาของตัวลูกแก้วกลวงในภาพน่าจะไม่เกิน 1.3 มม. เท่านั้นเอง

ภาพวาดในสมัยก่อนนั้น ยิ่งมีอายุมากเท่าใด และเป็นของศิลปินคนที่มีชื่อเสียงมากๆ ยิ่งทำให้มีราคาของผลงานนั้นมีราคาที่สูงขึ้นตามไปด้วย อย่างไรก็ตามผลงานศิลปะนั้นจะมีคุณค่าอยู่ที่มุมมองของแต่ละคน และสังคมนั้นๆ ด้วย

แจกสูตรอาหารไทยโบราณ ที่หาทานได้ยาก แจกสูตรอาหารไทยโบราณ ที่หาทานได้ยาก อาหารไทยโบราณ ใช่ว่าใครก็ทำได้ จะต้องเป็นผู้ที่เชี่ยวชาญอาหารไทยเท่านั้น แต่ในวันนี้ เราจะมาแจกสูตรอาหารไทยโบราณ

อ่านบทความน่าสนใจเพิ่มเติม : เขาไม่ง้อ เที่ยวเขาค้อกันดีกว่า!