5 เกมจากอนิเมะชั่น ที่อยู่ในใจคนดูต่อยอดมาสู่การเล่น
จะเป็นอย่างไรหากตัวละครในอนิเมะชั่นที่เราดูอยู่มาเป็นตัวละครในเกม พบกับ 5 เกมจากอนิเมะชั่น ที่นำตัวละครมาต่อสู้หรือฝ่าฟันอุปสรรคตามโครงเรื่องอนิเมะ จะมีเกมอะไรกันบ้าง มาดูกันลย
1. Dragon Ball Fighter Z
เกมต่อสู้ที่มากฉากหลังเป็นดราก้อนบอล เกมต่อสู้แบบ 2.5D ที่ได้ทีงานผู้สร้างจาก GUILTY GEAR, BlazBlue (Arc System Works) ตัวเกมเหมาะกับผู้เล่นทุกประเภท เพราะว่าเล่นง่าย โดยมีพื้นฐานการเล่นแบบ Combo ง่าย ๆ และการใช่ปุ่มเล่นแค่ไม่กี่ท่า แต่หากจะเล่นแบบจริงจังแล้วละก็ จะพบความยากของเกมอยู่เหมือนกัน นับว่าเกมนี้มีความสมดุลสูงสามารถนำไปแข่งได้เลย
จุดเสริมที่ทำให้เกมมีความน่าสนใจมากขึ้น นั่นก็คือเนื้อเรื่องของเกมตามฉบับการ์ตูนดราก้อนบอล แถมการเล่นยังมีโหมดออนไลน์อีกด้วยแถมยังทำได้ดีมีความลื่นไหลในการเล่นแถมภาพยังสวยสุด ๆ อีกด้วย
2. Dragon Ball Z: Xenoverse 2
ซีรีส์เกมจากการ์ตูน dragon ball นั่นก็คือซีรีส์ Dragonball Xenoverse เรียกว่าทั้งบรรยากาศทั้งกลิ่นอายในเรื่องมาครบครัน แถมตอนนี้ก็มาถึงภาค 2 แล้วด้วย Dragonball Xenoverse 2 จะเป็นเนื้อเรื่องที่ต่อจากภาคที่แล้ว ที่ตัวละคร(ที่เราสร้าง)สามารถแก้ไขประวัติศาสตร์ในเรื่องดราก้อนบอลให้กลับมาเป็นปกติ มาในภาคนี้เราจะรับบทเป็นนักเรียน(รึเปล่า)แห่งกาลเวลาที่ทำการฝึกฝนเพื่อจะไปต่อสู้กับศตรูที่ต้องการปั่นป่วนกาลเวลาที่อาจจะกลับมาอีกเมื่อไหร่ก็ได้ ซึ่งในภาคนี้เราจะไม่ใช่บุคคลที่ทรั้งค์ขอพรจากเทพเจ้ามังกร แต่เป็นคนในโรงเรียนนั้นที่ถูกเลือกมาทำภาระกิจ โดยเราที่เป็นนักเรียนต้องเลือกการปรับแต่งเผ่าพันธุ์ที่มีถึง5แบบก่อนเข้าสู่เกม
3. Attack On Titan 2
Attack on Titan 2 เป็นเกมที่แสดงจุดแข็งของความเป็น Action RPG ออกมาได้อย่างโดดเด่น ผ่านรูปแบบการต่อสู้ที่ลื่นไหล และรวดเร็ว รวมไปถึงเนื้อเรื่องที่ทรงสเน่ห์และดูน่าสนใจ ในขณะที่ตัวเกมหลายๆ ส่วนมีความเหมือนหรือคล้ายกับเกมในภาคแรกอย่าง Attack on Titan: Wings of Freedom อยู่พอสมควร
ในภาค 2 นี้ตัวเกมกับดีขึ้นในแทบจะทุกส่วน ไม่ว่าจะเป็นกราฟฟิกที่ดุสบายตามากกว่าเดิม และการต่อสู้ที่ดูเข้มข้นขึ้น แม้เนื้อเรื่องของตัวเกมเราจะพอรู้อยู่แล้วจากการ์ตูนที่ปล่อยออกมา แต่มันก็มีหลายๆ อย่างที่เดียวที่จะหลอกเราไปจนถึงบทสุดท้ายของตัวเกม อย่างไรก็ตามเรื่องราวใน Attack on Titan 2 จะอิงตามอนิเมะซีซั่น 2 เป็นหลัก โดยจะเล่าถึงความขัดแย้งระหว่างมนุษย์ ที่ต้องหนีจากไททันเพื่อเข้ามาหลบซ่อนตัวอยู่ในกำแพง จนวันหนึ่งปรากฎไททันขนาดยักษ์ขึ้น มันทำลายประตู และปล่อยเหล่าไททันเข้ามา มนุษย์เริ่มเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ และนั่นก็ขึ้นอยู่กับที่ตัวเราแล้วว่าจะสามารถหยุดมันได้รึเปล่า
4. naruto: the broken bond
naruto: the broken bond เป็นเกมชนิดต่อสู้ โดยเนื้อเรื่องของเกมภาค “The Broken Bond” จะเกี่ยวข้องกับตัวละครเอก “นารูโตะ” ที่สามารถสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองได้ เป็นหนึ่งสมาชิกของกลุ่มนินจา แต่สถานะและความสามารถที่เปลี่ยนไปของนารูโตะ กลับทำให้ “Sasuke” เพื่อนสนิทของเขามองด้วยความอิจฉา ส่งผลให้ทั้งคู่ห่างเหินกัน ซึ่ง “Orochimaru” ศัตรูในหมู่บ้านได้อาศัยช่วงเวลาที่เพื่อนสนิททั้งสองคนห่างเหินกันเข้ามาแทรกแซง และชักจูง “Sasuke” ให้ห่างจากนารูโตะและเข้าพวกกับเหล่าร้ายเพื่อพลังที่มากขึ้น งานนี้นารูโตะจะต้องทำเควสเพื่อดึงเพื่อนสนิทของเขากลับมาสู่เส้นทางที่ดีให้ได้
5. Naruto Shippuden: Ultimate Ninja Storm 3 Full Burst
สิ่งที่สะดุดตาแรกที่เห็นจะเกมนี้ คงจะเป็นชื่อเกมที่มีความยาวมาก Naruto Shippuden: Ultimate Ninja Storm 3 Full Burst เกมแอคชั่นต่อสู้ินนจานารูโตะ ที่เปิดโลกสงครามของนินจา
สำหรับเนื้อเรื่องของเกมในภาคนี้จะเป็นช่วงที่ซาสึเกะบุกการประชุมโฮคาเงะ ยาวไปจนถึงมหาสงครามนินจานอกจากนี้ยังมีเนื้อเรื่องเพิ่มเติมจากภาคก่อน ๆ ที่ตกหล่นไป ตั้งแต่สมัยเด็ก ๆ ของนารูโตะ เข้ามาเสริมใหม่ในส่วนของ Director’s Cut จนเติมเต็มเนื้อเรื่องแทบทั้งหมด
ในเกมมีการแบ่งโหมดการเล่นต่างเป็น 3 โหมด คือ Ultimate Adventure, Online Battle และ Free Battle มีระบบที่สามารถเลือก Route ในการเล่นได้ และแต่ละ Route จะมีเนื้อเรื่องแตกต่างกัน เพิ่มมูลค่าในการย้อนกลับมาเล่นอีกครั้ง เล่นง่ายคอมโบง่ายกดท่าง่าย แม้แต่เด็กที่เพิ่งหัดเล่นก็ยังทำความเข้าใจกับการต่อสู้ได้ไม่ยาก
จะเห็นได้ว่า 5 เกมจากอนิเมะชั่น ที่เรายกกันมาให้ดูในครั้งนี้เป็นอนิเมะที่เชื่อว่าหลายคนคงคุ้นเคยกันอยู่แล้ว แต่การที่เล่นเกมแล้วชนะได้นั้นเราก็ต้องมีเทคนิคกันบ้าง 7 วิธีที่ทำให้คุณเอาชนะสล็อต เคล็ดลับที่ทำให้คุณชนะในเกมสล็อตได้ รับรองไม่ผิดหวังแน่นอน
อ่านบทความเพิ่มเติม เคล็ดลับการจัดการเงินของ SLOT MACHINE